จะเขียนเรื่องอะไรดี ทำบล็อกเกี่ยวกับอะไรดี?
คุณเคยเจอความรู้สึกแบบนี้ไหม นั่งจ้องหน้าจอคอม เปิด Blogger หรือแพลตฟอร์มบล็อกอื่น ๆ แต่กลับนึกไม่ออกเลยว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน? นี่เป็นปัญหาคลาสสิกของทุกคนที่อยากเริ่มทำบล็อก เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของ “การมีบล็อก” แต่เป็นเรื่องของการหา “สิ่งที่ใช่” ให้กับตัวเอง การเลือกหัวข้อบล็อกมันไม่ต่างจากการเลือกเส้นทางชีวิต ถ้าคุณเลือกเส้นทางที่คุณสนใจจริง ๆ คุณจะเดินไปได้ไกลและสนุกกับมัน แต่ถ้าคุณเลือกแบบสุ่ม ๆ เพราะเห็นว่ามันทำเงินได้เร็ว คุณอาจจะหมดไฟกลางทางก่อนที่จะมีรายได้จริง ๆ ด้วยซ้ำ
บางคนคิดว่า "จะเขียนอะไรก็ได้ เดี๋ยวไปหาทางทำเงินทีหลัง" ซึ่งมันก็ไม่ผิดนะ แต่ลองนึกภาพตาม ถ้าคุณเปิดร้านแล้วไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อของเลย คุณจะรู้สึกยังไง? บล็อกก็เหมือนกัน ถ้าคุณเลือกเขียนเรื่องที่ไม่มีคนสนใจ โอกาสที่บล็อกจะเติบโตและสร้างรายได้ก็น้อยลงไปด้วย
บล็อกที่ประสบความสำเร็จต้องมีอะไรบ้าง?
บล็อกเกอร์ที่ไปได้ไกลไม่ใช่แค่เพราะพวกเขาเก่งการเขียน แต่เพราะพวกเขาเลือกหัวข้อที่ตอบโจทย์ 3 ข้อนี้คุณต้องเขียนได้เรื่อย ๆถ้าคุณเขียนไป 3 บทความแล้วเบื่อ โอกาสที่บล็อกจะเติบโตมีน้อยมาก แต่ถ้าหัวข้อที่คุณเลือกเป็นสิ่งที่คุณชอบจริง ๆ คุณจะมีแรงขับเคลื่อนที่จะเขียนมันต่อไปเรื่อย ๆ
ต้องเป็นเรื่องที่มีคนสนใจ ต่อให้คุณเขียนดีแค่ไหน ถ้าไม่มีใครค้นหาหรืออ่านมันก็คงไม่มีประโยชน์ หัวข้อที่ดีควรเป็นสิ่งที่มีคนอยากรู้ และคุณสามารถให้คำตอบหรือข้อมูลที่มีคุณค่าได้
ต้องมีศักยภาพในการสร้างรายได้ ถ้าคุณอยากให้บล็อกเป็นมากกว่างานอดิเรก หัวข้อที่คุณเลือกควรสามารถต่อยอดไปสู่การสร้างรายได้ได้ เช่น การติดโฆษณา การทำ Affiliate หรือแม้แต่การขายสินค้าของตัวเองการเลือกหัวข้อไม่ใช่แค่การตัดสินใจว่าจะเขียนอะไร แต่มันคือการกำหนดอนาคตของบล็อกว่าคุณจะไปได้ไกลแค่ไหน
เลือกหัวข้อบล็อก = เลือกเส้นทางเดินของตัวเอง ลองนึกถึงตัวเองตอนสมัครงาน ถ้าคุณเลือกงานที่คุณไม่ชอบ ต่อให้ได้เงินเดือนดีแค่ไหน คุณก็อาจจะรู้สึกเบื่อและอยากลาออกเร็ว ๆ บล็อกก็เป็นแบบเดียวกัน ถ้าคุณเลือกเขียนเรื่องที่คุณไม่ได้อินจริง ๆ แค่เพราะมันดูเหมือนจะทำเงินได้ คุณจะหมดไฟก่อนที่จะมีรายได้บางคนเลือกหัวข้อบล็อกแบบผิด ๆ เพราะเห็นว่าคนอื่นทำแล้วได้เงินเยอะ เลยพยายามทำตาม แต่ลืมคิดไปว่าตัวเองไม่มีความรู้หรือความชอบในเรื่องนั้นเลย
ตัวอย่างการเลือกหัวข้อผิด ๆ ที่มักพบบ่อยเลือกตามกระแสแบบไม่คิดให้รอบคอบ → บางเรื่องมันมาไวไปไว เช่น "เทรนด์มือถือปี 2023" พอหมดปีก็แทบไม่มีคนสนใจแล้ว
- เลือกเรื่องที่ตัวเองไม่มีความรู้เลย → สุดท้ายต้องไปก็อปเนื้อหาคนอื่นมา หรือเขียนได้แค่ผิวเผิน
- เลือกหัวข้อที่แคบเกินไป → เช่น "รีวิวแอปตัวเดียว" พอรีวิวจบก็ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อ
- เลือกหัวข้อที่กว้างเกินไป → เช่น "ไลฟ์สไตล์" หรือ "สุขภาพ" แต่ไม่มีจุดโฟกัส คนอ่านไม่รู้ว่าบล็อกคุณให้ความสำคัญกับเรื่องไหน
ในขณะเดียวกัน คนที่เลือกหัวข้อบล็อกได้ดีมักจะมีคุณสมบัติเหล่านี้ มีความรู้หรือประสบการณ์ในเรื่องนั้นสามารถให้คุณค่าและช่วยคนอ่านได้จริงมีแรงบันดาลใจที่จะเขียนเรื่องนี้ไปอีกนานการเลือกหัวข้อบล็อกไม่ใช่แค่เรื่องของการหา "สิ่งที่คนต้องการ" แต่ต้องเป็น "สิ่งที่คุณสามารถเขียนได้เรื่อย ๆ" ด้วย
"แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าควรเขียนเรื่องอะไร?"ถ้าคุณยังลังเลว่าจะเลือกหัวข้อไหนดี ลองตอบคำถามเหล่านี้ดู
- มีเรื่องอะไรที่คุณพูดแล้วไม่เบื่อ? → ถ้าต้องอธิบายเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง คุณจะสนุกไหม?
- คุณมีประสบการณ์อะไรที่สามารถแชร์ให้คนอื่นได้? → คุณเคยเจอปัญหาอะไรแล้วแก้ได้?
- ถ้าต้องเขียนบทความ 10 เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณจะยังอยากเขียนต่อไหม?
- มีเรื่องไหนที่คุณเคยค้นหาเองใน Google แล้วคิดว่า "ทำไมไม่มีใครเขียนเรื่องนี้ให้มันเคลียร์ ๆ ไปเลย?" → นี่อาจเป็นหัวข้อที่คุณควรเขียน
ลองคิดถึงตัวอย่างเหล่านี้
- ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ → บล็อกรีวิวอุปกรณ์ IT อาจเหมาะกับคุณ
- ถ้าคุณสนใจเรื่องการเงินและชอบแชร์เทคนิคการออมเงิน → บล็อกแนะแนวทางการเงินอาจเป็นทางที่ดี
- ถ้าคุณมีประสบการณ์ลดน้ำหนักแบบธรรมชาติแล้วทำสำเร็จ → บล็อกสุขภาพอาจเป็นคำตอบของคุณ
สิ่งสำคัญคือ คุณต้องเลือกเรื่องที่ "คุณมีแพสชั่น" และ "มีคนต้องการอ่าน" ไม่ใช่แค่เรื่องที่คุณคิดว่ามันทำเงินได้เยอะ เพราะถ้าคุณไม่มีแพสชั่น มันจะกลายเป็นภาระมากกว่าสิ่งที่คุณอยากทำ
อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น หลายคนคิดว่า "ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จะเขียนได้เหรอ?" แต่เชื่อเถอะ คนที่เริ่มบล็อกส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่แรก แต่พวกเขาเริ่มจาก "การแบ่งปัน" และค่อย ๆ เติบโตไปพร้อมกับบล็อกของตัวเอง ถ้าคุณรอจนกว่าตัวเองจะรู้ทุกอย่างก่อนเริ่มเขียน คุณจะไม่ได้เริ่มต้นเลย เพราะไม่มีใครรู้ทุกอย่างตั้งแต่แรก หัวใจสำคัญของการทำบล็อกคือ "การเรียนรู้และพัฒนาไปพร้อมกับมัน บทความนี้ช่วยให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นหรือยัง? การเลือกหัวข้อบล็อกไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณรู้จักตัวเองดีพอ และรู้ว่าคนอ่านต้องการอะไร ถ้าคุณมีไอเดียอยู่ในหัว ลองเริ่มต้นเขียนลงไปก่อน อย่ารอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะบล็อกที่ดีคือบล็อกที่ถูกเขียนขึ้นมา ไม่ใช่บล็อกที่อยู่แค่ในความคิด
วิธีเลือกหัวข้อบล็อกให้ตรงกับตัวเอง
> ตัวอย่าง คุณเป็นคนที่รักการทำอาหาร ชอบลองสูตรใหม่ ๆ และสนุกกับการรีวิวร้านอาหาร นี่อาจเป็นสัญญาณว่าคุณควรเริ่มบล็อกเกี่ยวกับการทำอาหาร
> ตัวอย่าง: คุณชอบพูดคุยเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ชอบแชร์เคล็ดลับการลดน้ำหนักให้เพื่อน ๆ คุณอาจจะเหมาะกับบล็อกเกี่ยวกับสุขภาพและฟิตเนส
> วิธีทดสอบ ลองจดหัวข้อบทความที่คุณอยากเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาให้ได้อย่างน้อย 10 หัวข้อ ถ้าคุณคิดไม่ออกตั้งแต่ตอนนี้ แสดงว่ามันอาจไม่ใช่หัวข้อที่คุณจะทำไปได้นาน
> ตัวอย่าง: ถ้าคุณเป็นช่างภาพ และมีประสบการณ์ถ่ายภาพมาหลายปี คุณสามารถแชร์เทคนิคการถ่ายภาพ หรือแนะนำอุปกรณ์ถ่ายภาพที่เหมาะสมได้
> ตัวอย่าง คุณเคยเป็นหนี้บัตรเครดิตมาก่อน และสามารถปลดหนี้ได้ภายใน 1 ปี คุณสามารถเขียนบล็อกเกี่ยวกับการบริหารการเงินส่วนบุคคล และช่วยคนอื่นที่กำลังเจอปัญหาเดียวกัน
> ตัวอย่าง คุณเป็นนักออกแบบกราฟิก และเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ Adobe Photoshop คุณสามารถทำบล็อกสอนเทคนิคการออกแบบและสร้างผลงานได
> ตัวอย่าง คุณเคยเป็นนักศึกษาที่ต้องหาวิธีเรียนให้ได้เกรดดี ๆ โดยไม่ต้องอ่านหนังสือหนัก ๆ คุณอาจเริ่มบล็อกเกี่ยวกับเทคนิคการเรียนสำหรับนักเรียนและนักศึกษา
- ตัวอย่างคุณชอบ DIY และทำของใช้เอง? → บล็อกเกี่ยวกับงานฝีมือและการตกแต่งบ้าน
- คุณเป็นคนชอบวิเคราะห์ฟุตบอล? → บล็อกเกี่ยวกับการวิเคราะห์เกมและการทายผลบอล
- คุณชอบเล่าเรื่องและเขียนนิยาย? → บล็อกเกี่ยวกับการเขียนและแนะนำหนังสือ
> "ไม่อินแต่ฝืนเขียน = พังตั้งแต่บทที่ห้า"ถ้าใจไม่รัก ต่อให้ได้เงินก็รู้สึกว่า “เหนื่อยเกินคุ้ม”
> "หัวข้อแคบ = บล็อกตันไว"เหมือนร้านที่มีสินค้าชิ้นเดียว แล้วเปิดขายทุกวัน
> "หัวข้อกว้างเกินไป = ไร้จุดยืน"เหมือนร้านค้าที่มีทุกอย่าง แต่ไม่มีอะไรโดดเด่น
สรุปสั้นๆ
ข้อผิดพลาด | อาการ | ผลลัพธ์ |
---|---|---|
เลือกเพราะหวังเงิน แต่ไม่อิน | ฝืนเขียน เบื่อ | หมดไฟเร็ว |
หัวข้อแคบเกินไป | เขียนหมดไว | ตัน ไม่มีต่อ |
หัวข้อกว้างเกินไป | ไม่มีจุดยืน | คนอ่านไม่รู้ว่าให้ติดตามเรื่องอะไร |
วิธีเลือกหัวข้อที่ใช้คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “Content is King” แต่ในโลกของการทำบล็อก..."หัวข้อที่คุณเลือก" คือพระราชวังที่ King ต้องอยู่ เพราะต่อให้เนื้อหาคุณดีแค่ไหน แต่ถ้ามันไม่มีคนอยากเข้าไปอ่าน ก็เหมือนปราสาทร้างไม่มีใครแวะ ไม่มีคนแชร์ ไม่มีรายได้
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าหัวข้อไหน "ใช่" สำหรับคุณ?ผมขอชวนคุณลองนึกภาพตัวเองในอีก 6 เดือน หรือ 1 ปีข้างหน้า...ถ้าคุณยังอยากเขียนเรื่องเดิมอยู่ นั่นแหละคือสัญญาณที่ดี แต่อีกทางหนึ่ง ถ้าคุณยังลังเล ลองใช้สูตร “3 ข้อง่าย ๆ” ที่ผมใช้จริง และอยากส่งต่อให้คุณลองใช้เลือกหัวข้อในบล็อกของตัวเอง:
สูตร 3 ข้อในการเลือกหัวข้อบล็อกให้ยั่งยืน
1. คุณอินกับมันจริงไหม? (Passion)ถ้าเรื่องนี้ทำให้คุณลุกจากเตียงมาพิมพ์บทความตอนตีสองได้โดยไม่บ่น แสดงว่าคุณเจอของจริงแล้ว
> ถ้าเขียนแล้วสนุก ไม่ใช่แค่เขียนให้เสร็จ คุณจะเขียนได้เรื่อย ๆ
2. มันมีคนค้นหาหรือเปล่า? (Search Demand)คุณอาจรักการสะสมตราไปรษณีย์ แต่ถ้าไม่มีใครเสิร์ชหาคำว่า "แสตมป์รุ่นหายากปี 2528" เลย บล็อกก็ยากจะโต
> ลองใช้ Google Trends, Answer the Public หรือ Keyword Planner ช่วยดูว่าหัวข้อนี้มีคนต้องการไหม
3. มันต่อยอดไปหารายได้ได้หรือไม่? (Monetization Potential)ถ้าคุณจะลงทุนเวลาเขียนบล็อกอย่างจริงจัง หัวข้อนั้นควรมีช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
> จะติดโฆษณา ทำ Affiliate หรือขายของก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่เรื่องนั้นเชื่อมไปถึงรายได้ในสักทางหนึ่ง
บทความถัดไป เราจะพาคุณไปล้วงลึกว่า....>[ จะหา "คีย์เวิร์ด" ยังไงให้หัวข้อบล็อกปัง?ค้นเยอะ คู่แข่งน้อย ทำเงินง่าย และ Google ก็รักด้วย]
ย้อนกลับไปอ่านบทความก่อนหน้านี้ [เริ่มต้นสร้างรายได้จากบล็อก ต้องรู้อะไรบ้าง?]
0 ความคิดเห็น