วิธีเลือกหัวข้อบล็อก Blogger ให้ปัง! คีย์เวิร์ดค้นหาเยอะ คู่แข่งน้อย ทำเงินง่าย

ภาพดิจิทัลแสดงบล็อกเกอร์กำลังวิเคราะห์ข้อมูลคีย์เวิร์ดด้วย Google Trends, Ubersuggest และ Keyword Surfer โดยมีกราฟแสดงแนวโน้มการค้นหา ค่าความยาก SEO และปริมาณการค้นหาต่อเดือน บรรยากาศการทำงานที่อบอุ่น สื่อถึงการวางแผนกลยุทธ์เนื้อหาเพื่อเลือกหัวข้อบล็อกที่มีโอกาสทำเงิน

หัวข้อคำคีย์เวิร์ดที่คนค้นหาเยอะ แต่ยังมีคู่แข่งไม่ค่อยเยอะ
หลังจากที่เริ่มมีไอเดียเกี่ยวกับเรื่องที่อยากเขียนแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่หลายคนมักจะข้ามคือ การเช็กว่าหัวข้อนั้นมีโอกาสเติบโตจริงหรือเปล่า ถ้าเลือกเขียนเรื่องที่ไม่มีใครสนใจเลย ต่อให้ตั้งใจเขียนแค่ไหน โอกาสที่คนจะเข้ามาอ่านก็มีน้อยมาก แต่ถ้าไปเลือกหัวข้อที่คนค้นหาเยอะเกินไป แบบที่มีบล็อกใหญ่หรือเว็บดังๆ ทำไว้หมดแล้ว 

โอกาสที่บล็อกของเราจะติดอันดับหน้าแรกใน Google ก็ยากเหมือนกัน สิ่งที่ควรมองหาคือหัวข้อที่อยู่ตรงกลาง เป็นเรื่องที่มีคนสนใจ มีคนค้นหาเยอะพอสมควร แต่ยังไม่ได้มีคู่แข่งเยอะมาก หัวข้อแบบนี้มีโอกาสที่บทความของเราจะติดอันดับง่ายกว่า

คนเข้าถึงได้มากขึ้น และเมื่อมีคนอ่านมากขึ้น รายได้ก็จะตามมาง่ายขึ้นด้วย หัวข้อแบบนี้มีอยู่จริง แค่ต้องใช้เวลาในการหานิดหน่อย และต้องรู้จักใช้เครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนลงมือเขียนจริง

วิธีหาไอเดียหัวข้อที่มีโอกาสทำเงิน

บางครั้งเราอาจพอรู้แล้วว่าอยากเขียนเรื่องอะไร แต่ยังไม่แน่ใจว่าคนอื่นสนใจเรื่องนี้เหมือนเราหรือเปล่า สิ่งที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น คือการเช็กข้อมูลจริงว่าหัวข้อนั้นมีคนค้นหาจริงไหม มีแนวโน้มโตหรือเริ่มเงียบลงแล้ว และมีคู่แข่งเยอะแค่ไหน เครื่องมือที่ใช้ในการเช็กพวกนี้มีหลายตัว แต่ในบทความนี้จะเน้นที่เครื่องมือฟรีที่ใครๆ ก็ใช้ได้ โดยเริ่มจากตัวแรกก่อน

ภาพแสดงการใช้ Google Trends วิเคราะห์แนวโน้มการค้นหา คำค้นยอดนิยม และเปรียบเทียบความนิยมของหัวข้อบล็อก

1. Google Trends
Google Trends เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราดูแนวโน้มของคำค้นหาบน Google ว่าคนค้นหาคำนั้นเยอะไหม เยอะขึ้นหรือลดลงในช่วงที่ผ่านมา และเปรียบเทียบคำได้ด้วย

ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ Google Trends แล้วลองพิมพ์คำที่คุณสนใจ เช่น หาเงินออนไลน์ หรือ รีวิวมือถือ พอดูกราฟแล้วจะเห็นเลยว่าคำไหนยังเป็นกระแสอยู่ และคำไหนเริ่มเงียบ ถ้าเส้นกราฟยังอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือทรงตัว ถือว่ายังพอไปต่อได้ แต่ถ้าเห็นว่าค่อยๆ ดิ่งลงมาเรื่อยๆ อาจจะต้องพิจารณาใหม่

ตัวอย่างเช่น คำว่า หาเงินออนไลน์ เป็นคำที่คนยังค้นหามากขึ้นทุกปี แปลว่าเขียนเรื่องนี้ยังมีคนอ่านแน่นอน ส่วนคำอย่าง รีวิวมือถือ จะมีช่วงที่คนค้นหาเยอะมากตอนเปิดตัวรุ่นใหม่ แล้วหลังจากนั้นก็จะค่อยๆ เงียบลง หัวข้อที่มีแนวโน้มดี มักจะช่วยให้บทความของเรามีคนเข้ามาอ่านได้ต่อเนื่อง ไม่ใช่พุ่งแค่ช่วงเดียวแล้วเงียบไปเลย

ภาพหน้าจอแสดงการใช้ Ubersuggest ในการค้นหาคีย์เวิร์ดและวิเคราะห์ SEO Difficulty โดยมีค่าความยากในการแข่งขัน SEO อยู่ที่ 44 และค่า Cost Per Click (CPC) อยู่ที่ 20 บาท เหมาะสำหรับใช้เลือกหัวข้อบล็อกที่มีโอกาสทำเงิน"
2. Ubersuggest 
Ubersuggest เป็นอีกเครื่องมือที่ใช้ดูได้ว่า คำที่เราสนใจมีคนค้นหามากน้อยแค่ไหน และมีการแข่งขันสูงหรือเปล่า ตัวนี้เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเลือกหัวข้อให้มีโอกาสติดอันดับง่าย ไม่ต้องไปแข่งกับเว็บใหญ่ๆ 

เข้าไปที่เว็บ Ubersuggest แล้วพิมพ์คำที่คุณสนใจลงไป เช่น หาเงินออนไลน์ ระบบจะแสดงข้อมูลหลายอย่างให้ดู ลองเลื่อนลงมาหาค่าที่ชื่อว่า Keyword Difficulty หรือที่บางทีเขาเขียนย่อว่า KD ตัวเลขนี้จะบอกว่า ถ้าเราเขียนบทความเกี่ยวกับคำนี้ จะมีโอกาสติดอันดับใน Google ง่ายแค่ไหน ยิ่งตัวเลขต่ำ คู่แข่งยิ่งน้อย ยิ่งติดอันดับง่าย

โดยทั่วไปดูได้แบบนี้ถ้าน้อยกว่า 30 คือแข่งขันน้อย เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำบล็อก ถ้าอยู่ระหว่าง 30 ถึง 50 คือแข่งขันระดับกลาง ต้องเขียนบทความดี และอาจต้องค่อยๆ สร้างลิงก์จากเว็บอื่นมาช่วย 

ถ้าเกิน 50 ขึ้นไป คือแข่งสูงมาก ต้องมีประสบการณ์และทำ SEO ค่อนข้างจริงจัง ยกตัวอย่างคำว่า หาเงินออนไลน์  ค่า KD อยู่ที่ 44 แบบนี้ถือว่าอยู่ในระดับกลาง ยังพอไปได้ ถ้าคุณมีบทความที่มีคุณภาพและสม่ำเสมอ 

แต่ถ้าเป็นคำว่า วิธีทำ SEO ค่า KD อยู่ที่ 55 แบบนี้จะยากหน่อย เพราะต้องแข่งกับเว็บใหญ่ๆ ที่ทำบทความไว้ก่อนแล้ว และมักมี Backlink เยอะกว่าด้วย 

สำหรับคนที่เพิ่งเริ่ม อยากให้ลองเลือกคำที่มี KD ต่ำกว่า 30 ไปก่อน เพื่อให้บทความมีโอกาสติดอันดับง่ายขึ้น และเริ่มเห็นผลเร็วกว่า

3. Keyword Surfer → เช็กปริมาณคนค้นหาติดตั้งส่วนเสริม Keyword Surfer บน Chrome พิมพ์คีย์เวิร์ดใน Google เช่น “ทำบล็อกให้ได้เงิน”ดูว่าคีย์เวิร์ดนั้นมีคนค้นหาต่อเดือนกี่ครั้งถ้าตัวเลขมากกว่า 1,000 → เป็นคีย์เวิร์ดที่มีโอกาสทำเงิน ถ้าน้อยกว่า 100 → อาจไม่คุ้มที่จะทำ

ตัวอย่าง

"หาเงินจาก Blogger" → 3,000 ครั้ง/เดือน (มีโอกาสดี) "รีวิวหนังสือ XYZ" → 90 ครั้ง/เดือน (คนน้อยเกินไป)

Keyword Surfer ใช้ได้เฉพาะบนคอมพิวเตอร์ (Windows/macOS/Linux)ผ่าน Google Chrome เท่านั้น ไม่สามารถใช้บนมือถือหรือแท็บเล็ตได้ ไม่เป็นไรเนอะ หากใครไม่มีคอมพิวเตอร์ notebook ใช้เครื่องมือ Google Trends บนมือถือแทน แล้วก็ Ubersuggest ผ่านเว็บ ซึ่งรองรับมือถือได้เช่นกันครับ

ตัวอย่างหัวข้อบล็อกที่มีโอกาสสร้างรายได้สูง

พอเริ่มเข้าใจแล้วว่าต้องหาหัวข้อที่มีคนค้นหา และไม่แข่งกันสูงเกินไป ทีนี้มาลองดูตัวอย่างหัวข้อที่มีโอกาสทำรายได้จริง และสามารถต่อยอดได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา การขายของ หรือการทำ Affiliate

หัวข้อแนว How-To หรือวิธีทำอะไรบางอย่าง หัวข้อพวกนี้มีคนค้นหาตลอด เพราะทุกคนอยากรู้วิธีแก้ปัญหาหรือทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จ เป็นแนวที่สามารถเขียนต่อเนื่องได้ดีเช่น

  • วิธีหาเงินออนไลน์ปี 2025
  • สอนทำบล็อกให้ติด AdSense

ทั้งสองหัวข้อนี้นอกจากคนค้นหาเยอะ ยังสามารถต่อยอดเป็นการขาย E-book หรือแปะลิงก์โฆษณาได้เลย คนที่เข้ามาอ่านก็มักจะเป็นคนที่ตั้งใจจริง อยากเริ่มต้นจริง

หัวข้อแนวรีวิว แนวนี้เหมาะกับคนที่ชอบลองของใหม่ ใช้แอปหรืออุปกรณ์บ่อยๆ แล้วอยากมาเล่าต่อ คนที่อ่านรีวิวส่วนใหญ่มักสนใจจะซื้อจริง เพราะฉะนั้นโอกาสที่เขาจะคลิกลิงก์หรือโฆษณาก็จะสูงตามไปด้วย ตัวอย่างหัวข้อเช่น

  • รีวิวมือถือรุ่นใหม่ พร้อมเปรียบเทียบ
  • รีวิวแอปหาเงินบนมือถือ

ถ้าแปะลิงก์จาก Shopee หรือ Lazada ไว้ในบทความด้วย เวลาเขาคลิกไปซื้อ เราก็จะได้ค่าคอมมิชชั่น

หัวข้อแนวให้ความรู้และแก้ไขปัญหา หัวข้อนี้เหมาะกับคนที่ชอบอธิบาย เข้าใจภาพรวมของเรื่องต่างๆ แล้วสามารถเล่าให้คนอื่นเข้าใจง่ายขึ้น คนที่เข้ามาอ่านแนวนี้มักจะกลับมาอีกเรื่อยๆ ถ้าบล็อกน่าเชื่อถือพอ ตัวอย่างเช่น

  • สอนทำ SEO เบื้องต้นสำหรับมือใหม่
  • วิธีออมเงินให้รวยแบบคนธรรมดา

หัวข้อพวกนี้สามารถต่อยอดเป็น E-book หรือทำ Affiliate กับสินค้าทางการเงิน หรือเว็บสอนคอร์สต่างๆ ได้เหมือนกัน

สรุปการเลือกหัวข้อบล็อก ไม่ควรเลือกจากแค่สิ่งที่เราชอบเขียนอย่างเดียว แต่ควรดูด้วยว่ามีคนสนใจหรือเปล่า และสามารถนำไปต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ได้ไหม ถ้ายังไม่แน่ใจ ให้ใช้เครื่องมือที่แนะนำมาก่อนหน้านี้เข้ามาช่วยวิเคราะห์ เพื่อให้มั่นใจว่าเรากำลังเขียนในหัวข้อที่มีคนหาเยอะ แต่ยังไม่ถูกทำซ้ำจนเกินไป หัวข้อที่ทำเงินได้ดีมักจะอยู่ในกลุ่มที่สอนวิธีทำอะไรบางอย่าง รีวิวของหรือบริการ และอธิบายเรื่องที่คนสนใจแต่เข้าใจยาก

บทความถัดไป จะพาไปดู [“วิธีสมัคร Blogger ด้วยมือถือแบบ Step-by-step”ไม่ต้องใช้คอม ไม่ต้องมีความรู้โค้ดแค่มีมือถือ ก็เปิดเว็บของตัวเองได้ภายใน 10 นาที]

ย้อนไปอ่านบทความก่อนหน้านี้ [จะเขียนบล็อกเรื่องอะไรดี? วิธีเลือกหัวข้อให้เหมาะกับคุณ]

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น