วิธีสร้างบล็อก Blogger ด้วยมือถือ (ตอนที่ 2) การตั้งค่าพื้นฐานให้กับ Blogger

การตั้งค่าพื้นฐาน Blogger สำหรับ LuMoo Blog (Step-by-step) - อินโฟกราฟิกที่จัดเรียงอย่างดี แสดงขั้นตอน 8 ขั้นตอนในการตั้งค่า Blogger รวมถึงการตั้งชื่อบล็อก การเพิ่มคำอธิบาย การกำหนดภาษาของบล็อก การใส่ Google Analytics ID การอัปโหลด Favicon การเปิดให้เครื่องมือค้นหาเก็บข้อมูล และการเลือกที่อยู่บล็อก
การตั้งค่าพื้นฐาน Blogger ของ LuMoo Blog (Step-by-step) - ต่อจากการเลือกเทมเพลต

หลังจากที่เราเลือกเทมเพลต (Template) สำหรับบล็อกของเราได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งค่าพื้นฐานให้ครบถ้วน เพื่อให้บล็อกของเราใช้งานได้เต็มที่ เหมาะกับการทำ SEO ผมจะยกตัวอย่างจากการตั้งค่า LuMoo Blog ของผมเองให้ดูชัด ๆ ว่าผมตั้งค่ายังไงบ้าง

หน้าจอเมนูการตั้งค่าใน Blogger บนมือถือแสดงรายการเมนูหลัก เช่น โพสต์ สถิติ ความคิดเห็น รายได้ หน้าเว็บ การออกแบบ ธีม และการตั้งค่า ที่ถูกเปิดใช้งานผ่านแอป Brave โดยเว็บไซต์ www.blogger.com
เข้าเว็บไซต์ www.blogger.com ผ่านแอป Google Chrome หรือ Brave

การเข้าใช้งาน Blogger บนมือถือ เราจะใช้เบราว์เซอร์ที่รองรับการทำงานเต็มรูปแบบ เช่น Google Chrome หรือ Brave เพราะสามารถเข้าถึงเมนูการตั้งค่าทั้งหมดได้ง่ายกว่าแอปอื่น ๆ

  • 1.เปิดแอป Google Chrome หรือ Brave บนมือถือของคุณ
  • 2. เข้าไปที่เว็บไซต์ www.blogger.com
  • 3. เมื่อล็อกอินด้วยบัญชี Google แล้ว กดที่ปุ่มสามเหลี่ยมด้านบนฝั่งซ้าย (แถบเมนูหลัก) เพื่อเปิดเมนูทั้งหมด
  • 4. เลื่อนลงมาแล้วกดที่ปุ่ม "การตั้งค่า" (Settings) เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าของ Blogger

ขั้นตอนนี้เป็นการเตรียมตัวเพื่อเข้าถึงเมนูการตั้งค่าทั้งหมดที่เราต้องปรับแต่งในบทความนี้ครับ ซึ่งสำคัญมากเพราะมันจะช่วยให้คุณปรับแต่งบล็อกได้อย่างเต็มที่!{codeBox}

LuMoo Blog - สอนทำบล็อกด้วยมือถือแบบง่าย ๆ พร้อมเคล็ดลับ SEO และเทคนิคหาเงินออนไลน์
1. การตั้งค่าชื่อบล็อก (Title) 

ตรงนี้แหละครับที่ผมต้องคิดเยอะพอสมควร เพราะชื่อบล็อกคือสิ่งที่คนจะเห็นก่อนเลย เหมือนป้ายหน้าร้านที่บอกว่า “ร้านนี้ขายอะไร?” ฉะนั้นต้องตั้งชื่อให้ชัดเจน สะท้อนเนื้อหาที่เราจะเขียน และใช้คีย์เวิร์ดที่คนค้นหาบ่อย ๆ ด้วย

ตัวอย่างที่ผมใช้ LuMoo Blog - เขียนบล็อก Blogger ด้วยมือถือ ง่าย สนุก ทำเงินได้จริง

ผมตั้งชื่อบล็อกให้มันสื่อสารไปเลยว่าที่นี่คือแหล่งรวมเนื้อหาการสอนเขียนบล็อกด้วยมือถือ และที่สำคัญคือทำให้คนรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยากหรือซับซ้อน สนุกและทำเงินได้จริง!

2. การตั้งค่าคำอธิบาย (Description) 

คำอธิบายก็สำคัญเหมือนกัน เพราะมันช่วยให้คนที่เข้ามาเห็นบล็อกของเรารู้ว่ากำลังจะเจออะไร และยังช่วยเรื่อง SEO ด้วยนะครับ

ตัวอย่างที่ผมใช้ LuMoo Blog - สอนทำบล็อกให้ปัง ด้วยมือถือแบบง่าย ๆ พร้อมเคล็ดลับการทำ SEO และสร้างรายได้จาก Google AdSense, Affiliate และเทคนิคการปรับแต่ง Blogger ให้ทำงานได้อย่างมืออาชีพ

เห็นไหมครับ ผมพยายามรวมคีย์เวิร์ดอย่าง “ทำบล็อก”, “มือถือ”, “SEO”, “AdSense” และ “Affiliate” ไว้ในคำอธิบายนี้ เพื่อให้ Google มองเห็นว่าเว็บนี้เกี่ยวกับอะไรและแนะนำให้คนค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น

3. การตั้งค่าภาษาของบล็อก (Language Setting)

สำหรับบล็อกของผม แน่นอนว่าเขียนเป็นภาษาไทยก็ต้องตั้งค่าให้เป็น Thai - ไทย เพื่อให้ระบบจัดอันดับการค้นหาแบบ Local ได้แม่นยำขึ้น

4. เปิดการตั้งค่าเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ (Adult Content)

อันนี้ผมตั้งค่าให้ ปิดไว้ เพราะเนื้อหาของผมเป็นการสอนเขียนบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ การปิดเอาไว้ก็จะช่วยให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบล็อกของเราได้อย่างสบายใจ

5. รหัสการวัด Google Analytics (Google Analytics Tracking ID)

อันนี้สำคัญมากครับ! เพราะมันช่วยให้เรารู้ว่ามีคนเข้ามาดูบล็อกเรามากแค่ไหน พวกเขาอ่านบทความไหนมากที่สุด และเข้ามาจากที่ไหนบ้าง ซึ่งข้อมูลพวกนี้จะช่วยให้เราพัฒนาบล็อกได้ดีขึ้นวิธีการตั้งค่า

  • 1. เข้าไปที่เว็บไซต์ Google Analytics แล้วสมัครบัญชี
  • 2. สร้างโปรเจกต์ใหม่สำหรับบล็อกของเรา
  • 3. ก๊อปรหัสการวัด (Tracking ID) ที่ได้มาใส่ในช่องนี้ได้เลย

6. การตั้งค่า Icon Fav (ไอคอน Fav)

Icon Fav หรือ Favicon คือไอคอนเล็ก ๆ ที่แสดงอยู่บนแท็บเบราว์เซอร์เวลามีคนเปิดบล็อกของเรา ตัวอย่างเช่น รูปรถ LUMO ที่ผมออกแบบไว้เองนี้แหละ! วิธีการตั้งค่า Icon Fav ใน Blogger (ตามที่ผมใช้)

  • 1. ไปที่หน้า การตั้งค่า (Settings) ในแดชบอร์ด Blogger
  • 2. เลื่อนลงมาที่หัวข้อ “ไอคอน Fav”
  • 3. กดที่ปุ่ม “เลือกไฟล์” เพื่ออัปโหลดรูปภาพ
  • 4. รูปภาพที่ผมใช้นั้นมีขนาดประมาณ 64x64 พิกเซล และไฟล์ไม่เกิน 100 KB เพื่อให้แสดงผลได้คมชัด
  • 5. กด “บันทึก” ก็เป็นอันเสร็จ!

ข้อดี รูป Icon Fav ที่ใช้เป็นโลโก้ของตัวเอง ทำให้บล็อกดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และจำง่ายขึ้น

นี่คือขั้นตอนการตั้งค่าพื้นฐานของ LuMoo Blog ของผมเองครับ! การตั้งค่าเบื้องต้นนี้ช่วยให้บล็อกของเราพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มที่ และยังช่วยให้ติด SEO ง่ายขึ้นด้วย{codeBox}

LuMoo Blog - ตั้งค่า Blogger ให้พร้อมใช้งานใน 5 นาที แบบง่าย ๆ”

7. การตั้งค่าส่วนบุคคล (Personal Settings)

หลังจากที่เราตั้งค่าเบื้องต้นต่าง ๆ ไปแล้ว ต่อมาก็จะเป็นการตั้งค่าส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาและการเข้าถึงบล็อกของเรา ซึ่งสำคัญมากถ้าเราต้องการให้บล็อกของเราถูกค้นหาเจอผ่าน Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ การตั้งค่าแสดงในเครื่องมือค้นหา (Enable Search Engines Indexing)

ในการตั้งค่านี้ ผมเลือกเปิดใช้งาน “แสดงในเครื่องมือค้นหา” เพื่อให้ Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ สามารถเข้าถึงบล็อกของเราได้และทำการเก็บข้อมูลลงดัชนี (Index) ซึ่งส่งผลดีต่อการทำ SEO และช่วยให้บล็อกของเราติดอันดับการค้นหาได้ง่ายขึ้น

ทำไมต้องเปิดใช้งาน?

เพราะถ้าเราปิดไว้ บล็อกของเราจะไม่ถูกค้นหาเจอบน Google เลย ต่อให้เราเขียนบทความดีแค่ไหน คนก็จะไม่เจอ! ดังนั้น แนะนำให้เปิดไว้ตลอดครับ

8. การเผยแพร่ (Publishing Settings)

ตรงนี้เราจะมาตั้งค่า URL หรือที่อยู่ของบล็อกกันครับ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการทำ SEO และการทำให้คนจำเว็บเราได้ง่าย ๆ

ที่อยู่บล็อก (Blog Address) ในกรณีนี้ ผมเลือกใช้ที่อยู่เป็น “lumooblog.blogspot.com” ซึ่งเป็นที่อยู่ฟรีที่ Blogger ให้มา

ทำไมถึงเลือกแบบนี้?

เพราะในช่วงเริ่มต้น ผมยังอยากลองสร้างเนื้อหาไปเรื่อย ๆ และศึกษาการทำ SEO ก่อน จึงใช้ที่อยู่ฟรีของ Blogger แต่ในอนาคตถ้าผมต้องการความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ก็อาจจะซื้อโดเมนเนมที่เป็นของตัวเอง (Custom Domain) ได้เลย

9. การตั้งค่าโดเมนที่กำหนดเอง (Custom Domain Settings)

หากคุณต้องการใช้โดเมนเนมที่เป็นของตัวเอง เช่น “www.lumooblog.com” คุณสามารถซื้อโดเมนจากผู้ให้บริการต่าง ๆ เช่น Namecheap, GoDaddy, หรือ z.com (ราคาโดยประมาณ 500 บาทต่อปี) แล้วนำมาเชื่อมต่อกับ Blogger ได้

ข้อดีของการใช้โดเมนที่กำหนดเอง เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเรา สร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพ เพิ่มโอกาสในการทำ SEO ที่ดียิ่งขึ้น

ในกรณีนี้ผมยังไม่ได้ใช้โดเมนที่กำหนดเอง แต่ถ้าคุณสนใจสามารถไปตั้งค่าได้ที่เมนูนี้ได้เลยครับ

10. การตั้งค่า HTTPS (Secure HTTPS Settings)

ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณดูน่าเชื่อถือ การเปิดใช้งาน HTTPS จะช่วยให้การเชื่อมต่อเว็บไซต์ของคุณปลอดภัยมากขึ้น

การตั้งค่า HTTPS เปิดใช้งานที่เมนู “เปลี่ยนเส้นทาง HTTPS” (ในภาพผมเปิดไว้แล้ว) เมื่อเปิดแล้ว เวลาคนเข้ามาในบล็อกจะเห็นว่าเว็บไซต์มี “แม่กุญแจสีเขียว” ขึ้นอยู่ข้างหน้า URL (ตัวอย่าง https://lumooblog.blogspot.com) ซึ่งหมายความว่าการเชื่อมต่อปลอดภัย

ทำไมต้องเปิดใช้งาน HTTPS?

ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของคุณเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ Google จัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้งานรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเข้ามาเยี่ยมชมบล็อก{codeBox}

LuMoo Blog - การตั้งค่าสิทธิ์และการเข้าถึงใน Blogger แบบเข้าใจง่าย

11. การตั้งค่าสิทธิ์ (Permissions Settings)

การตั้งค่าสิทธิ์ใน Blogger เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เราควบคุมการเข้าถึงและการใช้งานบล็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะถ้าเราต้องการเปิดให้คนอื่นเข้ามาเขียนบทความร่วมกัน หรือจำกัดการเข้าถึงของผู้อ่านบางกลุ่ม

   11.1การตั้งค่าผู้ดูแลระบบและผู้เขียนบล็อก (Admins & Authors)

ในส่วนนี้ ผมตั้งค่าให้บล็อก LuMoo Blog มีผู้ดูแลระบบเพียงคนเดียวคือ "LuMoo" (ซึ่งก็คือผมเอง) เพื่อให้สามารถควบคุมการเขียน การตั้งค่า และการปรับแต่งทั้งหมดได้อย่างอิสระ

ถ้าในอนาคตคุณต้องการให้คนอื่นเข้ามาร่วมเขียนบทความในบล็อกของคุณ สามารถเพิ่มผู้เขียนใหม่ได้โดยการคลิกที่ “เชิญผู้เขียนรายอื่น” แล้วกรอกอีเมลของผู้ที่คุณต้องการเชิญลงไป

ข้อดีของการเพิ่มผู้เขียน.สามารถสร้างทีมงานเพื่อเขียนบทความหลาย ๆ เรื่องพร้อมกันได้ เพิ่มความหลากหลายให้กับเนื้อหาของบล็อก สามารถแบ่งหน้าที่ระหว่างผู้เขียนและผู้ดูแลระบบได้อย่างชัดเจน

   11.2การตั้งค่าสิทธิ์ในการเข้าถึงของผู้อ่าน (Readers Permissions)

สำหรับบล็อก LuMoo Blog ของผม ตอนนี้ผมตั้งค่าให้เป็น “สาธารณะ (Public)” เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้ามาอ่านเนื้อหาได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องใช้รหัสผ่านหรือการอนุมัติใด ๆ

แต่ Blogger ก็ให้ทางเลือกอื่นด้วย เช่น

  • “ส่วนตัว (Private)” เฉพาะผู้ที่ได้รับคำเชิญเท่านั้นที่จะเข้ามาอ่านบล็อกได้ เหมาะสำหรับบล็อกที่ใช้เขียนเรื่องส่วนตัว หรือข้อมูลที่ไม่ต้องการให้คนทั่วไปเข้าถึง
  • “ผู้อ่านที่กำหนดเอง (Custom Readers)” สามารถเลือกเชิญผู้อ่านเฉพาะรายบุคคล โดยการกรอกอีเมลของผู้ที่ต้องการอนุญาตให้เข้ามาอ่าน

ในภาพด้านบน การตั้งค่าสิทธิ์ในการเข้าถึงของผู้อ่านเป็นแบบ “สาธารณะ (Public)” ซึ่งเหมาะสมมากครับ เพราะบล็อกของผมต้องการให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาอ่านบทความได้อย่างง่ายดาย

   11.3เชิญผู้เขียนรายอื่น (Invite Authors)

ถ้าคุณต้องการเพิ่มผู้เขียนใหม่ สามารถกดที่ “เชิญผู้เขียนรายอื่น” แล้วกรอกอีเมลของผู้ที่ต้องการเชิญให้ร่วมเขียนได้เลย

ตัวอย่างการใช้งาน ถ้าคุณต้องการให้เพื่อนของคุณช่วยเขียนบทความเกี่ยวกับ SEO หรือการสร้างรายได้จากมือถือ ก็สามารถเพิ่มเขาเป็นผู้เขียนได้ทันที โดยเขาจะสามารถเขียนบทความได้ แต่ไม่สามารถปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าบล็อกของคุณได้

การตั้งค่าสิทธิ์เหล่านี้ทำให้บล็อกของคุณมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น และยังช่วยให้คุณควบคุมการเข้าถึงและการจัดการเนื้อหาได้อย่างมืออาชีพ{codeBox}

LuMoo Blog - การตั้งค่าโพสต์และการแสดงผลรูปภาพใน Blogger

12. การตั้งค่าโพสต์ (Post Settings)

เมื่อเราตั้งค่าสิทธิ์และการเข้าถึงเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็จะเป็นการตั้งค่าเกี่ยวกับโพสต์ในบล็อกของเรา เพื่อให้เนื้อหาที่เราสร้างขึ้นสามารถแสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

   12.1 การตั้งค่าจำนวนโพสต์สูงสุดที่แสดงในหน้าหลัก (Maximum Posts Displayed on Main Page)

สำหรับบล็อก LuMoo Blog ของผม ผมตั้งค่าให้แสดงโพสต์ในหน้าแรกสูงสุด 7 โพสต์ เพราะผมต้องการให้ผู้อ่านสามารถเห็นเนื้อหาใหม่ ๆ ได้ง่าย และไม่ต้องเลื่อนหน้าจอนานเกินไป แต่ถ้าในอนาคตบล็อกมีบทความเยอะขึ้น อาจปรับลดลงให้เหลือ 5 โพสต์ เพื่อให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้นก็ได้

   12.2 การตั้งค่าไลท์บ็อกซ์รูปภาพ (Image Lightbox)

ผมเปิดใช้งาน “ไลท์บ็อกซ์รูปภาพ” เพื่อให้ภาพที่แทรกในบทความสามารถคลิกขยายดูได้ใหญ่ขึ้น ซึ่งการตั้งค่านี้ช่วยให้ผู้อ่านสามารถดูรายละเอียดของรูปภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าภาพนั้นเป็นตัวอย่างหรือขั้นตอนการใช้งานต่าง ๆ ที่ต้องดูรายละเอียดให้ครบถ้วน

ข้อดีของการเปิดใช้งานไลท์บ็อกซ์ ทำให้ประสบการณ์การดูรูปภาพของผู้อ่านดีขึ้น ลดโอกาสที่ผู้อ่านจะเลื่อนผ่านรูปภาพไปโดยไม่ได้สังเกต

   12.3 การตั้งค่ารูปภาพการโหลดแบบ Lazy Loading (Lazy Loading Images)

ในส่วนนี้ผม ปิดการใช้งาน Lazy Loading เนื่องจากผมต้องการให้รูปภาพทั้งหมดในบทความโหลดพร้อมกันเมื่อเปิดหน้าเว็บขึ้นมา เพราะบล็อก LuMoo Blog ของผมมีเนื้อหาที่ยาวและละเอียด การโหลดรูปภาพพร้อมกันจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเลื่อนอ่านได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอโหลดรูปภาพทีละส่วน

แต่… ถ้าบล็อกของคุณมีรูปภาพเยอะมาก (เช่น บล็อกท่องเที่ยวหรือรีวิวภาพ) การเปิดใช้งาน Lazy Loading จะช่วยให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น เพราะมันจะโหลดรูปภาพเมื่อผู้ใช้งานเลื่อนหน้ามาถึงตำแหน่งนั้นเท่านั้น

   12.4 การตั้งค่าการแสดงรูปภาพ WebP (WebP Image Display)

ผมเลือกเปิดใช้งานการแสดงรูปภาพแบบ WebPเพราะ WebP เป็นฟอร์แมตภาพที่ช่วยให้ไฟล์ภาพมีขนาดเล็กลง แต่ยังคงความคมชัดอยู่ ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์โหลดได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องลดคุณภาพของรูปภาพ ข้อดีของการใช้ WebP ช่วยลดขนาดไฟล์ภาพได้ถึง 30%-80% เมื่อเทียบกับ JPEG หรือ PNGเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ

Google ให้ความสำคัญกับเว็บที่มีความเร็วในการโหลดที่ดี ทำให้ SEO ของเราดีขึ้นด้วย การตั้งค่าโพสต์ทั้งหมดนี้มีผลต่อความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ และประสบการณ์ของผู้อ่านเป็นอย่างมาก การเลือกตั้งค่าให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่เราทำจะช่วยให้บล็อกของเราดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น{codeBox}

การตั้งค่าความคิดเห็นใน Blogger ให้ผู้ชมแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ

13. การตั้งค่าความคิดเห็น (Comments Settings)

การตั้งค่าความคิดเห็นใน Blogger มีความสำคัญมาก เพราะมันช่วยให้เราสื่อสารกับผู้อ่านได้โดยตรง และยังสร้างความรู้สึกว่าบล็อกของเรามีการตอบโต้ ไม่ใช่แค่เขียนแล้วปล่อยทิ้งไว้

   13.1 การตั้งค่าตำแหน่งความคิดเห็น (Comment Location)

สำหรับบล็อก LuMoo Blog ของผม ผมตั้งค่าให้ตำแหน่งความคิดเห็นเป็น “ฝัง (Embedded)”ซึ่งหมายความว่าช่องคอมเมนต์จะปรากฏอยู่ใต้บทความโดยตรง ทำให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ทันทีหลังจากอ่านบทความเสร็จ

   13.2 การตั้งค่าสิทธิ์ผู้ที่สามารถแสดงความคิดเห็น (Who Can Comment)

ผมตั้งค่าให้ เฉพาะผู้ที่มีบัญชี Google เท่านั้น ที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เหตุผลที่ผมตั้งค่าแบบนี้

  1. เพื่อป้องกันสแปมจากผู้ใช้งานที่ไม่ประสงค์ดีหรือบอท (Bot)
  2. ช่วยให้เรารู้ตัวตนของผู้แสดงความคิดเห็นได้ง่ายขึ้น
  3. เพิ่มความปลอดภัยให้กับบล็อก โดยลดความเสี่ยงจากคอมเมนต์ที่ไม่เหมาะสม

   13.3 การตรวจสอบความคิดเห็น (Comment Moderation)

ผมตั้งค่าให้เป็น “ไม่ใช้เลย (No Moderation)” ซึ่งหมายความว่าทุกความคิดเห็นที่ส่งเข้ามาจะถูกแสดงผลทันทีโดยไม่ต้องรอการอนุมัติจากผม 

แต่… Blogger ยังให้ทางเลือกอื่น ๆ ที่คุณสามารถเลือกได้ เช่น

“เสมอ (Always)” ทุกความคิดเห็นต้องได้รับการอนุมัติก่อนถึงจะแสดงผลได้ เหมาะสำหรับบล็อกที่ต้องการควบคุมเนื้อหาอย่างละเอียด

“เฉพาะโพสต์ที่เก่ากว่า (Only On Posts Older Than)” สามารถตั้งค่าให้คอมเมนต์ที่โพสต์ในบทความที่เก่ากว่าช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 14 วัน) ต้องได้รับการตรวจสอบก่อน

ในกรณีนี้ผมเลือกแบบ “ไม่ใช้เลย” เพราะต้องการให้บล็อกของผมมีการสนทนากับผู้อ่านได้ทันที โดยไม่ต้องรอการอนุมัติ ซึ่งช่วยให้บล็อกดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

  13.4 การตั้งค่า CAPTCHA สำหรับความคิดเห็น (Comment CAPTCHA)

ผมปิดการใช้งาน CAPTCHA สำหรับความคิดเห็น เพราะต้องการให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันที่ซับซ้อน

แต่ถ้าในอนาคตผมเจอปัญหาสแปม ก็สามารถกลับมาเปิดใช้งานได้ง่าย ๆ ในเมนูนี้

   13.5 การตั้งค่าข้อความของแบบฟอร์มความคิดเห็น (Comment Form Message)

ส่วนนี้เป็นการตั้งค่าข้อความที่จะแสดงใต้ช่องคอมเมนต์ เช่น คำแนะนำหรือข้อความต้อนรับให้ผู้อ่านรู้สึกสบายใจเมื่อจะคอมเมนต์ 

ตัวอย่างที่ผมใช้ “คอมเมนต์ได้เต็มที่เลยนะครับ คำถามหรือคำแนะนำใด ๆ ยินดีรับฟังเสมอ! :)”

การเพิ่มข้อความนี้ช่วยให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเราพร้อมรับฟังความคิดเห็น และสนับสนุนให้พวกเขาแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่

การตั้งค่าความคิดเห็นนี้มีผลอย่างมากต่อประสบการณ์ของผู้อ่าน ถ้าเราตั้งค่าให้พวกเขาคอมเมนต์ได้ง่าย ก็จะช่วยให้เกิดการโต้ตอบ และทำให้บล็อกของเรามีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น{codeBox}

การตั้งค่าความคิดเห็นใน Blogger ให้ผู้ชมแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ

14. การตั้งค่าอีเมล (Email Settings)

การตั้งค่าอีเมลใน Blogger มีประโยชน์มากครับ โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการให้ผู้อ่านติดตามเนื้อหาใหม่ ๆ หรือให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีความคิดเห็นใหม่เข้ามา เพื่อให้เราสามารถโต้ตอบผู้อ่านได้อย่างรวดเร็ว

   14.1การตั้งค่าโพสต์ผ่านอีเมล (Post via Email)

ในส่วนนี้ผมตั้งค่าไว้ที่ “ปิดอยู่” ซึ่งหมายความว่าผมไม่ได้ใช้งานฟีเจอร์นี้ในตอนนี้ แต่ถ้าคุณต้องการโพสต์บทความผ่านอีเมล สามารถทำได้ดังนี้

  • 1. เปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ใน Blogger
  • 2. กำหนดที่อยู่อีเมลลับที่ใช้ในการโพสต์ (เช่น username.secretword@blogger.com)
  • 3. เมื่อคุณส่งอีเมลไปที่ที่อยู่นี้ เนื้อหาจะถูกโพสต์ลงบล็อกโดยอัตโนมัติ

ประโยชน์ ใช้โพสต์บทความได้แม้ไม่ได้เข้าผ่านหน้าเว็บ Blogger สะดวกสำหรับการโพสต์เนื้อหาด่วน

   14.2 การตั้งค่าผู้ติดตามการแจ้งเตือนโพสต์ (Post Notification Subscribers)

ในกรณีนี้ผมยังไม่ได้ตั้งค่าผู้ติดตามการแจ้งเตือนโพสต์ ซึ่งหมายความว่าไม่มีผู้อ่านที่ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีโพสต์ใหม่เกิดขึ้น แต่ถ้าคุณต้องการให้ผู้อ่านได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีบทความใหม่ สามารถทำได้ดังนี้

  • 1. เพิ่มอีเมลของผู้อ่านที่ต้องการให้ได้รับการแจ้งเตือนในส่วนนี้
  • 2. เมื่อคุณโพสต์บทความใหม่ ผู้อ่านที่ได้รับคำเชิญจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมล

   14.3 การเชิญผู้อื่นให้ติดตามการแจ้งเตือนโพสต์ (Invite Others to Subscribe)

ในกรณีนี้ผมยังไม่ได้เชิญใครให้ติดตามการแจ้งเตือนโพสต์ แต่ถ้าคุณต้องการให้คนอื่นติดตามบล็อกของคุณ คุณสามารถเชิญพวกเขาได้โดยส่งคำเชิญผ่านอีเมล

การตั้งค่าผู้ติดตามการแจ้งเตือนเมื่อมีความคิดเห็นใหม่ (Comment Notification Subscribers)

ผมตั้งค่าให้มีการส่งการแจ้งเตือนเมื่อมีความคิดเห็นใหม่เข้ามาที่อีเมลของผม (lumoopat.ben@gmail.com) การตั้งค่านี้มีประโยชน์มาก เพราะทำให้ผมสามารถรู้ได้ทันทีเมื่อมีคนคอมเมนต์ และสามารถตอบกลับพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว

วิธีการตั้งค่า

  • 1. ใส่อีเมลที่ต้องการรับการแจ้งเตือนในช่องนี้
  • 2. ทุกครั้งที่มีคนคอมเมนต์ใหม่ ระบบจะส่งอีเมลแจ้งเตือนให้เราทราบ

การเชิญผู้อื่นให้ติดตามการแจ้งเตือนความคิดเห็นใหม่ (Invite Others to Subscribe to Comments)

ผมยังไม่ได้เชิญใครให้ติดตามการแจ้งเตือนความคิดเห็นใหม่ แต่ถ้าคุณต้องการให้คนอื่นติดตามความคิดเห็นใหม่ได้ ก็สามารถเชิญพวกเขาโดยการเพิ่มอีเมลลงในส่วนนี้

ประโยชน์

  • เพิ่มการโต้ตอบกับผู้อ่านได้รวดเร็วขึ้น
  • สร้างความรู้สึกว่าบล็อกของเรามีชีวิตชีวา และมีการตอบสนองจากผู้เขียน

การตั้งค่าอีเมลใน Blogger นี้ช่วยให้คุณสามารถจัดการการสื่อสารกับผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้คุณสามารถรู้ความเคลื่อนไหวของบล็อกได้ตลอดเวลา{codeBox}

การตั้งค่าการจัดรูปแบบวันและเวลาใน Blogger ให้ตรงกับเขตเวลาของคุณ

15. การตั้งค่าการจัดรูปแบบ (Formatting Settings)

การตั้งค่าการจัดรูปแบบใน Blogger เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เนื้อหาของเราดูเป็นระเบียบ และแสดงผลได้อย่างถูกต้องตามที่เราต้องการ โดยเฉพาะเมื่อมีการแสดงวันที่หรือเวลาในโพสต์ต่าง ๆ

   15.1 การตั้งค่าเขตเวลา (Time Zone Setting)

สำหรับบล็อก LuMoo Blog ของผม ผมตั้งค่าเขตเวลาไว้ที่ (GMT-07:00) เวลาแปซิฟิกในอเมริกาเหนือ – ลอสแอนเจลิส

เหตุผลที่เลือกเขตเวลานี้ เป็นเขตเวลามาตรฐานที่ Blogger ตั้งค่าให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเราต้องการให้บล็อกแสดงผลตามเวลาของประเทศไทย สามารถเปลี่ยนไปที่(GMT+07:00) เวลาอินโดจีน – กรุงเทพ ได้ เพื่อให้การแสดงผลเวลาในโพสต์เป็นไปตามเวลาจริงที่เราใช้งาน

แนะนำ สำหรับผู้ที่เขียนบล็อกเป็นภาษาไทยและต้องการให้เวลาแสดงผลเป็นเวลาประเทศไทย ควรตั้งค่าเป็น (GMT+07:00) เวลาอินโดจีน – กรุงเทพ

   15.2 การตั้งค่ารูปแบบส่วนหัวของวันที่ (Date Header Format)

ในส่วนนี้ผมตั้งค่าให้แสดงเป็นรูปแบบ

“Sunday, March 30, 2025”

ทำไมถึงเลือกแบบนี้?

เพื่อให้ผู้อ่านเห็นวันที่โพสต์ได้ชัดเจน รูปแบบนี้อ่านง่าย และเป็นมาตรฐานที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่คุ้นเคย

ตัวเลือกอื่น ๆ ที่ Blogger มีให้

  • รูปแบบย่อ (เช่น 03/30/2025)
  • รูปแบบยาว (เช่น March 30, 2025)
  • รูปแบบเต็ม (เช่น วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2568)

   15.3 การตั้งค่ารูปแบบวันที่ของดัชนีคลังบทความ (Archive Index Date Format)

ในส่วนนี้ผมตั้งค่าให้แสดงเป็น “March 2025”ซึ่งเป็นรูปแบบที่ง่ายต่อการจัดเก็บและค้นหาโพสต์ย้อนหลัง โดยเฉพาะถ้าเราต้องการให้บล็อกแสดงผลบทความแบบจัดหมวดหมู่ตามเดือนและปี

   15.4 การตั้งค่ารูปแบบการประทับเวลา (Timestamp Format) 

ในส่วนนี้ผมตั้งค่าให้แสดงเป็น“March 30, 2025” เพื่อให้วันที่แสดงในโพสต์ดูเรียบง่าย และอ่านเข้าใจได้ทันที โดยไม่ซับซ้อนเกินไป

   15.5 การตั้งค่ารูปแบบการประทับเวลาของความคิดเห็น (Comment Timestamp Format)

ในส่วนนี้ผมตั้งค่าให้แสดงเป็น “March 30, 2025 เวลา 10:58 AM” ซึ่งแสดงทั้งวันที่และเวลาอย่างละเอียด เหมาะสำหรับการติดตามความคิดเห็นและตอบกลับผู้อ่านอย่างทันท่วงที

การตั้งค่าการจัดรูปแบบเหล่านี้ช่วยให้บล็อกของเรามีความเป็นระเบียบ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่าน การตั้งค่าที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น และยังช่วยเรื่องการจัดเก็บเนื้อหาให้ค้นหาได้ง่ายขึ้นด้วย

ก็จบไปแล้วสำหรับการตั้งค่าพื้นฐานของ Blogger ที่ผมใช้กับ LuMoo Blog บอกเลยว่าถ้าตั้งค่าครบตามนี้ บล็อกคุณก็พร้อมใช้งานได้แบบไม่มีปัญหาแล้ว!

แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ... ถ้าคิดว่าจบแค่นี้แล้วพอ บอกเลยว่ายังไม่พอ เพราะจริง ๆ แล้วเรายังต้องตั้งค่าเรื่อง SEO กันอีกนิดหน่อย เพื่อให้บล็อกของเราถูกค้นหาเจอได้ง่ายขึ้นจาก Google{codeBox}

บทความต่อไป [ผมจะพาไปตั้งค่า SEO บนแฟลตฟอร์ม blogger] เบื้องต้น ที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนเลยครับ มีตั้งแต่การใส่ Meta Tags, การตั้งค่า Robot.txt และการทำ Sitemap ให้ Google จัดการเนื้อหาเราได้สะดวกขึ้น

ไม่ต้องกังวลว่าจะยุ่งยาก เพราะผมจะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดเหมือนเดิม อ่านแล้วทำตามได้แน่นอนครับ! รอติดตามได้เลย! 

ย้อนกลับไปอ่านบทความก่อนหน้านี้ [วิธีสร้างบล็อก Blogger ด้วยมือถือแบบ Step-by-step ทำเองได้ใน 10 นาที]

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น